เคล็ดลับเลือกประกันรถมอเตอร์ไซค์


วันที่เขียน 2019-07-25 16:03:45
วันที่อัพเดทล่าสุด 2019-08-01 16:45:11

เคล็ดลับเลือกประกันรถมอเตอร์ไซค์  

การประกันรถมอเตอร์ไซค์เป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม บางคนมองว่ายุ่งยาก บางคนก็อาจมองว่าไม่อยากเสียเงินเยอะ แต่ในความจริงแล้วก็ไม่ได้ยุ่งยากและไม่จำเป็นต้องเสียเงินเยอะ เพียงแค่มีเทคนิคดีๆในการเลือกนิดหน่อย เราก็สามารถเลือกประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะกับเรา เหมาะกับรถ และเหมาะกับงบประมาณที่ตั้งไว้ได้แล้ว แต่จะมีวิธีเลือกแบบไหนบ้าง บทความนี้ thedriverservice.com จะมาแนะนำกัน 

ที่มารูปภาพ pixabay.com

1.สำรวจพฤติกรรมการขับและการใช้รถ 

หลายๆ คนขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไม่เหมือนกัน ดังนั้น เราต้องมาดูกันว่าพฤติกรรมการใช้รถมอเตอร์ไซค์เป็นแบบไหนและเหมาะกับประกันรถมอเตอร์ไซค์ประเภทใด ตัวอย่างเช่น   

  • มือใหม่หัดขับ : คนกลุ่มนี้เหมาะกับการซื้อประกันภัยมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 เนื่องจากให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี
  • ขับรถในเมือง : ไม่ว่าจะไปทำงาน หรือไปเรียนก็ตาม กลุ่มนี้เหมาะกับประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ เนื่องจากคุ้มครองทั้งคู่กรณีและตัวเราด้วย
  • ขับรถไปต่างจังหวัด : ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดใกล้ๆ หรือต้องขับกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เหมาะกับการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ เพราะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งตัวเราและคู่กรณี ทำให้อุ่นใจในขณะขับขี่มากขึ้น
  • ไม่ค่อยได้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ : สำหรับใครที่ไม่ค่อยได้ขับ อาจจะมีรถยนต์อยู่แล้ว หรือ เน้นใช้เมื่อยามจำเป็นอย่างเช่นตอนรถเสีย และอยากมีประกันไว้ให้อุ่นใจ thedriverservice.com แนะนำว่าเหมาะกับประกันภัยชั้น 3 เพราะราคาไม่สูงมาก แถมยังคุ้มครองคู่กรณี เมื่อเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย

2.ชนิดและประเภทมอเตอร์ไซค์ของเรา 

เมื่อสำรวจพฤติกรรมการขับรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองแล้ว ต่อมาก็คือ การสำรวจประเภทรถ เพราะประกันรถมอเตอร์ไซค์ประเภทต่างๆ ให้ความคุ้มครองที่ต่างกัน ดังนี้ 

  • รถมอเตอร์ไซค์ขนาดน้อยกว่า 500 cc : ควรเลือกประกันภัยมอเตอร์ไซค์ชั้น 2+ หรือ 3+ เพราะมีราคาถูกกว่าประกันภัยชั้น 1 และยังให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าอีกด้วย
  • รถมอเตอร์ไซค์ขนาดมากกว่า 500 cc : ส่วนใหญ่นิยมทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 นอกจากจะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม ยังคุ้มครองกรณีรถสูญหายอีกด้วย

3.ทำความรู้จักกับประกันรถมอเตอร์ไซค์ 

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 1 เป็นประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่มีความคล้ายกับประกันรถยนต์เพราะมีความคุ้มครองเยอะ โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • คุ้มครองคู่กรณี, ผู้เอาประกัน
  • รับผิดชอบต่อชีวิตและร่างกาย, ทรัพย์สิน และค่ารักษาพยาบาล
  • คุ้มครองกรณีรถสูญหายและไฟไหม้
  • คุ้มครองกรณีรถลื่นล้มเองไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุและไม่มีคู่กรณี
  • มีค่าเสียหายส่วนแรก

ส่วนใหญ่ประกันรถมอเตอร์ไซค์ชั้น 1 จะเหมาะกับบิ๊กไบค์ เพราะมีเบี้ยประกันสูงและมีความคุ้มครองที่ครอบคลุม

 

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 2 + เป็นประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่มีความคุ้มครองคล้ายประกันชั้น 1 แต่มีความแตกกันที่

  • ไม่คุ้มครองกรณีรถล้มเอง และไม่มีคู่กรณี
  • จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้สำหรับรถคันเอาประกัน
  • ราคาประหยัดกว่าประกันชั้น 1

นอกจากจะเป็นประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่ราคาประหยัดแต่ได้ความคุ้มครองเยอะแล้ว ยังหาซื้อง่ายอีกด้วย   

 

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 3 +  คล้ายกับประกันชั้น 2 + มาก แต่มีจุดที่แตกต่างกันคือ

  • ไม่คุ้มครองกรณีไฟไหม้
  • ไม่คุ้มครองกรณีรถสูญหาย

          ด้วยความคุ้มครองที่แตกต่างจึงทำให้ประกันชั้น 3 + มีราคาของเบี้ยประกันถูกกว่าประกันชั้น 2 +

 

ประกันรถมอเตอร์ไซค์ ชั้น 3 เป็นประกันที่มีราคาประหยัดที่สุด มีความคุ้มครองที่แตกต่างจากประเภทอื่น ดังนี้

  • ให้ความคุ้มครองความเสียหายและทรัพย์สินแค่คู่กรณีเท่านั้น
  • ไม่มีความคุ้มครองให้รถคันเอาประกัน

           ประกันชั้น 3 มีความคุ้มครองที่น้อย จึงไม่เป็นที่นิยมของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ แม้จะมีราคาเบี้ยประกันที่ถูกกว่าก็ตาม   

ประกันรถมอเตอร์ไซค์สูญหาย ประกันรถมอเตอร์ไซค์ประเภทนี้ เป็นกรมธรรม์พิเศษเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น ให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถมอเตอร์ไซค์ถูกโจรกรรม สูญหายทั้งคัน ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ และเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งมีเงื่อนไขการทำประกันคล้ายกับรถยนต์ นั่นคือ (1.) รถป้ายแดง มีทุนประกันประมาณ 80% ของราคารถ (2.) รถที่มีอายุ 1-3 ปี จะมีทุนลดลงต่อปี (ทีละ 10%) (3.) รถที่มีอายุ 4-9 ปี จะมีทุนเหลือเพียง 10,000 บาทจนถึง 6,000 บาทเท่านั้น

ที่มารูปภาพ pixabay.com

4.เปรียบเทียบราคาและเงื่อนไขของบริษัทประกัน 

ปัจจุบันมีบริษัทประกันรถมอเตอร์ไซค์เกิดขึ้นมากมาย แต่ละแห่งก็มีเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น 

  • ค่าเสียหายส่วนแรก คือค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันก่อนเคลม ในกรณีที่ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าผู้เอาประกันเป็นฝ่ายถูกก็ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก
  • ทุนประกัน คือค่าสินไหมทดแทนที่ผู้เอาประกันจะได้รับจากบริษัทประกันเมื่อรถมอเตอร์ไซค์ได้รับความเสียหาย ถ้าทุนประกันสูงมากเท่าไหร่ เบี้ยประกันก็จะสูงตามด้วย
  • ความคุ้มครอง คือเงื่อนไขการดูแลค่าใช้จ่ายที่บริษัทประกันจะรับผิดชอบให้ผู้ที่ซื้อประกัน แบ่งเป็นความคุ้มครองหลักที่ดูแลค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น ค่าซ่อม ค่าชดเชย ที่ครอบคลุมความรับผิดชอบต่อคู่กรณี ความคุ้มครองเสริม ที่ซื้อเพิ่มจากประกันที่มีอยู่แล้วเพื่อใช้ดูแลด้านอื่น ๆ เช่น ความคุ้มครองในการต่อสู้คดี เป็นต้น

เมื่ออ่านครบทั้ง 4 ข้อ Thedriverservice.com หวังว่าหลายคนคงจะเข้าใจและสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ในประกอบการตัดสินใจ เพียงเท่านี้เราก็สามารถเลือกประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์แบบที่เหมาะสมกับตัวเองและงบประมาณที่ตั้งไว้ได้ไม่ยากเลย