อย่า ทำประกันบิ๊กไบค์ ถ้าไม่ได้อ่านบทความนี้


วันที่เขียน 2019-07-25 17:37:18
วันที่อัพเดทล่าสุด 2019-08-01 16:43:00

อย่า ทำประกันบิ๊กไบค์ ถ้าไม่ได้อ่านบทความนี้     

ปัจจุบันรถบิ๊กไบค์ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งก็เป็นที่รู้กันดีว่ารถบิ๊กไบค์มีราคาแพง ถึงจะเป็นรุ่นล่างสุดก็ตาม ด้วยเหตุนี้อะไรที่เกี่ยวข้องกับรถบิ๊กไบค์ ตั้งแต่อะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง หมวกกันน็อก จึงแพงไปด้วยรวมทั้งการทำประกันบิ๊กไบค์ด้วย แล้วแบบนี้เราจะเลือกประกันแบบไหนดี วันนี้ Thedriverservice.com มีคำตอบมาฝากสาวกรถบิ๊กไบค์ทุกคนกัน 

ที่มารูปภาพ pixabay.com

ประกันบิ๊กไบค์หมายถึงอะไร 

ประกันบิ๊กไบค์คือ การทำประกันความคุ้มครองให้กับรถบิ๊กไบค์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นโครงของตัวรถ เครื่องยนต์ หรือแม้แต่ล้อรถ ซึ่งในปัจจุบันหลายๆบริษัทมี ประกันภัยบิ๊กไบค์ ออกมาให้ทำกันแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ความคุ้มครองจะไม่ค่อยต่างกับประกันรถยนต์ทั่วไปมากนัก จะแตกต่างกันก็เพียงเบี้ยประกัน และวงเงินประกันเท่านั้น

ทำประกันบิ๊กไบค์จำเป็นไหม ?

จริง ๆแล้ว สำหรับคนที่ต้องใช้รถทุกวันเพื่อเดินทางไปทำงานหรือเดินทางต่างจังหวัด และมีกิจกรรมทัวร์ออกนอกพื้นที่ ยิ่งต้องมีทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนมากการซื้อมอไซค์เงินผ่อนทางโชว์รูมจะบังคับให้มีประกันรถอยู่แล้ว เนื่องจากบิ๊กไบค์เป็นยานพาหนะที่ปราดเปรียวและมีราคาแพง เครื่องยนต์แรง ท้องถนนจึงเสี่ยงต่อการเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพื่อให้คุ้มครองคุณและรถบิ๊กไบค์คันโปรด การทำประกันบิ๊กไบค์จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าไม่ทำแน่นอน  

ทำความรู้จัก ความคุ้มครองของประกันบิ๊กไบค์

  • ประกันบิ๊กไบค์ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองทั้งคู่กรณีและรถมอเตอร์ไซค์ของผู้เอาประกัน ไม่ว่าจะเป็น ค่าเสียหายต่อรถมอเตอร์ไซค์ ค่ารักษาพยาบาล และรวมไปถึงกรณีรถสูญหาย ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติที่รวมถึงน้ำท่วมด้วย
  • ประกันบิ๊กไบค์ชั้น 2 ให้ความคุ้มครองค่าเสียหายต่อตัวรถคู่กรณีเท่านั้น ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ของผู้ เอาประกัน จะได้รับความคุ้มครองในกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้ (แต่ค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ และคนซ้อน ของผู้เอาประกันก็สามารถเคลมได้)
  • ประกันบิ๊กไบค์ชั้น 3 ให้ความคุ้มครองค่าเสียหายต่อตัวรถคู่กรณีเท่านั้น ในขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ ของผู้เอาประกัน จะไม่ได้รับความคุ้มครองใด ๆ นั่นคือค่าซ่อม หรือกรณีรถหาย ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ ผู้เอาประกันจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง แต่ค่ารักษาพยาบาลของผู้ขับขี่และคนซ้อนของ ผู้เอาประกันก็สามารถเคลมได้
ที่มารูปภาพ pixabay.com

 

เลือกประกันให้เหมาะกับขนาดของบิ๊กไบค์

เบี้ยประกันของรถบิ๊กไบค์จะสูงตามขนาดของกำลังเครื่องยนต์ หากกำลังเครื่องยนต์สูง ราคารถก็จะสูงตาม ไปด้วย ดังนั้น ควรเลือกประกันบิ๊กไบค์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณีจะดีที่สุด

ควรเลือกประกันแบบไหน

การทำประกันบิ๊กไบค์นั้น เกี่ยวกับการซื้อเงินสดและเงินผ่อนได้เหมือนกัน เพราะถ้าซื้อเงินสดเราจะเลือกทำประกันอย่างไรก็ได้ แต่ถ้าซื้อผ่อนส่วนมากจะมีการบังคับทำประกันไว้แล้ว ซึ่งในกรณีที่ซื้อเงินสดก่อนทำประกัน ควรรู้ก่อนว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับบิ๊กไบค์มีอะไรบ้าง เช่น เกิดอุบัติเหตุ ไฟไหม้ และ สูญหาย เป็นต้น ประกันที่เราเลือกจึงควรครอบคลุมประเด็นเหล่านี้ด้วย ตัวอย่างเช่น 

  • ใช้ในชีวิตประจำวัน หากเป็นคนที่ใช้รถบิ๊กไบค์ในชีวิตประจำวัน ต้องเผชิญกับสภาพการจราจรซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่า ควรเลือกประกันชั้น 1 เพราะให้ความคุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี ทั้งยังให้ความคุ้มครองทั้งทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล และร่างกาย ของผู้เอาประกัน ทั้งยังคุ้มครองในกรณีลื่นล้มหรืออุบัติเหตุอื่นๆ ที่ไม่มีคู่กรณี
  • ใช้เพื่อออกทริปต่างจังหวัด Thedriverservice.com แนะนำให้ใช้ประกันชั้น 2+ อาจตอบโจทย์ได้มากกว่า เนื่องจากเป็นประกันที่คุ้มครองทั้งผู้เอาประกันและคู่กรณี ให้ความคุ้มครองทั้งทรัพย์สิน ค่ารักษาพยาบาล และร่างกาย ของผู้เอาประกัน รวมถึงกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้
  • มือใหม่หัดขับ ใครที่อาจจะยังมีประสบการณ์การขับขี่น้อย ควรทำประกันชั้น 1 เนื่องจากเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด แม้จะมีราคาสูง แต่ก็มีไว้เพื่ออุ่นใจในยามเกิดเหตุไม่คาดฝันจะดีกว่า
  • ผู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ อาจจะเลือกทำประกันชั้น 3 ซึ่งเบี้ยประกันต่ำสุด โดยจะให้ความคุ้มครองแค่ความเสียหายและทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น

เปรียบเทียบประกันเพื่อหาข้อเสนอที่ดีที่สุด

หลังจากที่เลือกแล้วว่าจะทำประกันบิ๊กไบค์ประเภทไหนก็ควรนำประกันจากหลายๆ แห่งมาเปรียบเทียบกันเพื่อเลือกประกันที่ให้สิทธิประโยชน์มากที่สุด โดยอาจพิจารณาดังต่อไปนี้

  • ค่าเสียหายส่วนแรก คือ ค่าเสียหายที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายให้กับบริษัทประกันก่อนเคลม
  • ทุนประกัน คือ ค่าสินไหมทดแทนที่ผู้เอาประกันจะได้รับจากบริษัทประกันเมื่อรถมอเตอร์ไซค์ได้รับความเสียหาย
  • ความคุ้มครอง คือ เงื่อนไขการดูแลค่าใช้จ่ายที่บริษัทประกันจะรับผิดชอบให้ผู้ที่ซื้อประกัน ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ความคุ้มครองหลัก เช่น ค่าซ่อม ค่ารักษาพยาบาล และความคุ้มครองเสริม เช่น ความคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล ความคุ้มครองในการต่อสู้คดี เป็นต้น

รักษาผลประโยชน์ตัวเองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

เมื่อประสบอุบัติเหตุโดยที่เราเป็นฝ่ายถูก แนะนำให้ยืนยันกับบริษัทประกันภัยของคู่กรณี หรือกับคู่กรณีว่าให้นำรถของเราไปซ่อมกับศูนย์บริการของผู้แทนจำหน่ายรถยี่ห้อนั้นๆ เพื่อจะได้รับการบริการตามมาตรฐานของบริษัทผู้ผลิตรถ และมั่นใจได้ว่าอะไหล่ที่เปลี่ยนนั้นเป็นของแท้ ได้รับการรับประกัน 

ประกันบิ๊กไบค์ แม้จะมีเบี้ยประกันสูงเมื่อเทียบกับรถจักรยานยนต์ทั่วไป เพราะราคาและค่าความเสียหายของบิ๊กไบค์นั้นสูงเทียบเท่ารถยนต์ ก่อนจะซื้อประกันภัย จึงควรรู้จักประกันประเภทต่างๆ และเลือกให้เหมาะสมกับขนาดเครื่องยนต์และการใช้งาน อีกเรื่องที่ Thedriverservice.com อยากเตือนคือ ควรตรวจสอบสิทธิ์ประโยชน์จากประกันแต่ละประเภทก่อนตัดสินใจเลือกซื้อประกันด้วย