ขับขี่มอเตอร์ไซค์ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน
ขับขี่มอเตอร์ไซค์ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน
ผู้ที่นิยมขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ว่าจะใช้ทำงานหรือไปท่องเที่ยว พอย่างเข้าฤดูฝนทุกคนย่อมรู้ดีว่าความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและเผชิญกับทัศนะวิสัยที่แย่ย่อมเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับขี่ลดลง แต่ในเมื่อเราไม่สามารถคาดเดาสภาพอากาศได้ว่าฝนจะตกเมื่อไร thedriverservice.com จึงนำเทคนิคและวิธีการป้องกันในช่วงฤดูฝนแบบนี้มาฝากผู้อ่านทุกท่านกัน
เช็คสภาพรถมอเตอร์ไซค์ให้เรียบร้อย
ในฤดูฝน ควรเช็คสภาพรถมอเตอร์ไซค์ให้เรียบร้อย โดยสิ่งที่ควรเช็ค ได้แก่
- ยาง เช็คความลึกดอกยางว่าเหลือความลึกยางเท่าไร โดยสังเกตดูปุ่มสะพานยาง หากหน้ายางสึกจนถึงปุ่มสะพานยาง แสดงว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่ และอย่าลืมเติมลมยางด้วย
- เบรก เช็คน้ำมันเบรก ผ้าเบรก และกลไกทั้งหมดว่าทำงานได้เป็นปกติหรือไม่
- ของเหลว ช่วงหน้าฝน ตรวจหมั่นสอบว่าน้ำมันเครื่องเปลี่ยนสีหรือไม่ หากมีสีขาวขุ่นผสมแสดงว่ามีน้ำปนเปื้อน ต้องรีบเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่
- ระบบไฟ เช็คอุปกรณ์ให้ความสว่างและสัญญาณไฟทุกชิ้นว่าทำงานได้อย่างปกติหรือไม่
- อุปกรณ์อื่นๆ ไล่ตั้งแต่หัวเทียน กรองอากาศ ฯลฯ ต้องอยู่ในสภาพปกติ น็อตต่างๆ ต้องขันให้แน่น
เครื่องแต่งกายต้องครบ
เราควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเบื้องต้นให้ครบอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นหมวกกันน็อค ถุงมือ รองเท้า เสื้อแจ็คเก็ต กางเกงขายาว ซึ่งการขี่รถมอเตอร์ไซค์ในช่วงหน้าฝน จำเป็นต้องสวมใส่อุปกรณ์เหล่านี้ให้ครบ แต่อาจต้องใส่ใจในรายละเอียดอุปกรณ์มากกว่าเดิม เช่นหมวกกันน็อค จำเป็นต้องเลือกหมวกแบบปิดหน้าที่มี windshield เพื่อกันฝนสาดเข้าใบหน้าเวลาขับขี่ เป็นต้น
นอกจากนี้ อุปกรณ์การขับขี่ ควรเลือกแบบกันน้ำทั้งเสื้อผ้า รองเท้า และแจ็คเก็ต เพราะการสวมใส่เสื้อผ้าเปียกน้ำและยังฝืนขับขี่ ทำให้เกิดร่างกายหนาวเย็น ส่งผลให้ตอบสนองการขับขี่ไม่ทันท่วงที และควรพกชุดกันฝนด้วย เพราะบางครั้งฝนก็ตกมาแบบไม่ทันตั้งตัว มีเสื้อกันฝนสำรองไว้ใต้เบาะ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเราในยามฉุกเฉินได้
ขับขี่ด้วยความเร็วที่เหมาะสม
เป็นที่ทราบกันดีว่า ฝนตกถนนลื่น ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรใช้ความเร็วที่เหมาะสม พร้อมลดความเร็วลง เมื่อต้องขี่ท่ามกลางสายฝน เนื่องจากเวลาที่ถนนเปียก จะทำให้ผิวยางเกาะถนนได้น้อยลง ทั้งยังอันตรายเวลาเข้าโค้งอีกด้วย
ใช้โช๊คช่วยสตาร์ท
รถมอเตอร์ไซค์อาจประสบปัญหาสตาร์ทติดยากในวันที่ฝนตก Thedriverservice.com แนะนำให้ลองใช้ระบบ Air Control System ในการสตาร์ทรถ จะช่วยให้การสตาร์ทรถกลายเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว โดยโยกเปิดโช๊ค (ปกติอยู่ใต้แฮนด์ซ้าย) จากนั้นจึงสตาร์ทรถและโยกปิดโช๊คเมื่อรถสตาร์ทติดแล้ว
เผื่อระยะเบรก
ควรเผื่อระยะการหยุดรถให้มากขึ้น เนื่องจากถนนลื่นทำให้รถต้องใช้ระยะหยุดรถที่ยาวมากขึ้น เพิ่มสัดส่วนการใช้เบรกหน้าและหลังเช่น 60-40% อย่าเบรกกะทันหัน เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ หรือรถคันอื่นที่ตามหลังมา เขาเบรกไม่ทัน ก็อาจชนเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ของเราได้
ทางที่ดี ควรเว้นระยะเบรก และใช้วิธีผ่อนคันเร่งเพื่อชะลอความเร็วของมอเตอร์ไซค์แทนการเบรก จะช่วยให้หยุดรถได้ปลอดภัยมากกว่า
หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำ
บางคนคิดว่ากรณีนี้ใช้กับรถยนต์เท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่า ใต้แอ่งน้ำอาจมีหลุมบ่อขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ ถ้าขี่รถลุยไปอาจทำให้ช่วงล่างพังได้ Thedriverservice.com แนะนำให้หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำก็จะดี หรือขี่อ้อมนิดหน่อยเพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าใครจำเป็นต้องลุยน้ำขังนิดๆ หน่อยๆ ให้ย้ำเบรกบ่อยๆ ช้าๆ เพื่อรีดให้ผ้าเบรกแห้ง ป้องกันเบรกลื่น และเบรกติด
ลดความเร็ว
ใช้ความเร็วลดลงเมื่อต้องขี่ฝ่าฝน เนื่องจากฟิล์มน้ำบนผิวถนนทำให้ยางรถเกาะถนนน้อยลง หรือไม่สัมผัส กับผิวถนนและยังเป็นอุปสรรคต่อการเข้าโค้ง ควรเลือกใช้ความเร็วต่ำลงเพื่อความปลอดภัย
ห้ามดับเครื่องเวลาขับลุยน้ำ
บางครั้งการขับขี่มอเตอร์ไซค์ลุยน้ำ ก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เทคนิคคือ เลือกใช้เกียร์ต่ำและรักษาความเร็วคงที่ตอนลุยน้ำ เพื่อให้แรงดันจากท่อไอเสียดันน้ำออกมาและห้ามดับเครื่องยนต์โดยเด็ดขาด แต่หากระดับน้ำสูงกว่า 1 ฟุตขึ้นไป แนะนำว่าอย่าลุย ยกเว้นเรากำลังขับมอเตอร์ไซค์แบบแอดเวนเจอร์ อันนี้ลุยได้เต็มที่
เปิดไฟหน้า
เวลาฝนตกย่อมทำให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็นแย่ ดังนั้น ควรเปิดไฟหน้ารถไว้ จะทำให้คนอื่นมองเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของเราได้ง่ายขึ้น แถมยังช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุไปในตัวด้วย
สติเป็นสิ่งสำคัญ
ในช่วงที่ฝนตกใหม่ๆ ถนนย่อมลื่นเป็นธรรมดา ดังนั้น ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ ควรมีความระมัดระวังให้มากขึ้น มีสติตลอดเวลา ขับด้วยความเร็วในระดับต่ำ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมกับควรสังเกตถนนหนทางและรถรอบข้าง ดูว่าถนนมีแอ่งน้ำ หรือมีหลุมมีบ่อที่ไหนบ้าง
จอดรถหาที่หลบฝน
หากฝนตกหนักมากๆ จนไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าได้ แนะนำว่าควรหาที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ข้างทาง หรือแวะปั๊มน้ำมันก่อนจะดีกว่า รอจนกว่าฝนจะซาหรือหยุดตก แล้วค่อยออกเดินทางต่อ
ทั้งหมดนี้คือ เทคนิคเล็กๆน้อยๆที่ Thedriverservice.com ได้รวบรวมมาให้ เชื่อว่าหลายท่านคงทราบกันดีอยู่แล้ว แต่เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝน จึงอยากจะฝากบทความนี้คอยเตือนใจอีกครั้ง และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ไม่มากก็น้อย